วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปูน ๔/๔ มาร่วมแลกเปลี่ยน "ภาพสื่อความหมาย" ให้เพื่อนๆ

ภาพชุดแรก คือ ภาพที่อยู่อาศัย

ภาพของบ้านเหล่านี้ทั้งสวยและดูขาวสะอาดมีต้นไม้และต้นหญ้า มีดอกไม้สีสันต่างๆมากมายมีการตกแต่งมากมายหลายรูปแบบบ้างก็เป็นสองชั้นบ้างก็เป็นชั้นเดียวหรือบ้างก็อาจจะมีหลายชั้นก็ได้มีไฟประดับตกแต่งอย่างสวยงาม บางบ้านตอนกลางวันก็สวยกว่าตอนกลางคืน บางบ้านตอนกลางคืนก็สวยกว่าตอนกลางวัน แต่บางคนเดียวนี้ก็เช่าคอนโดอยู่หรือซื้อห้องในคอนโดอยู่ก็ยังมีคะ

ลักษณะเป็นบ้านไม้เรือนไทยมีการประดับแบบไทยไทยมีต้นไม้รอบบ้านซึ่งร่มรื่นมาก มีบรรยากาศที่ดีกว่าในกรุงเทพฯเพราะบ้านในชนบทภาคกลางจะเห็นว่าติดคลองอยู่แต่บ้านในกรุงเทพฯจะติดถนนทำให้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์เข้ามาอยู่ บ้านชนบทส่วนใหญ่ยกสูงมีใต้ถุน ตั้งอยู่ห่างกัน

ภาพชุดที่สอง คือ ภาพการคมนาคม

การเดินทางในชนบทภาคกลางถนนจะเดินทางไม่ค่อยสะดวกเพราะถนนไม่เรียบและดีเหมือนในกรุงเทพฯแต่ก็มีอย่างหนึ่งที่ดีกว่า คือ มีต้นไม้ให้ความร่มเย็นอยู่ ถนนในชนบทจึงบรรยากาศดีกว่าไม่เหมือนกับในกรุงเทพฯไม่มีต้นไม้ริมทางเลย แต่ก็ยังมีส่วนที่เหมือนกรุงเทพฯอยู่บ้างคือ มีการเดินทางทางน้ำ

การเดินทางของคนกรุงเทพฯนั้นมีหลายรูปแบบ แบ่งเป็นสามทางเป็นหลักๆ คือ ทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ ทางน้ำก็จะมียานพาหะนะเป็น เรือ แบ่งออกไปหลายประเภทอีก เป็น เรือหางยาว เรือพาย เรือโดยสาร  ต่อไป ทางบกก็จะมีเป็นรถหลายประเภท รถยนต์ รถโดยสาร รถรับจ้าง รถไฟฟ้า รถไฟ ต่อไป ทางอากาศ มี เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์



ภาพชุดที่สาม คือ ภาพอาชีพ


ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอุตสาหกรรม ค้าขาย พนักงานบริษัท รับจ้าง และเป็นนักธุรกิจอีกมากมาย เช่น พ่อกับแม่ ของหนูเองแต่ยังไง ทุกคนก็ต้องมีงานของตัวเองทำเพื่อประกอบอาชีพและมีอาหารเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่รอด ถึงแม้จะมีงานที่ไม่เหมือนกัน เมื่อเห็นภาพสุดท้ายแล้วก็จะเห็นว่า คนพิการก็ต้องขายล๊อตตารี่เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ


การประกอบอาชีพของคนชนบทภาคกลางนั้นจะแตกต่างกันออกไปจากคนกรุงเทพฯ โดยคนชนบทจะทำพวกงานฝีมือเป็นส่วนใหญ่แล้วนำไปขาย เช่น รูปสุดท้าย คนชนบทจะไม่ใช้เครื่องจักรเหมือนเป็นโรงงาน จากรูปที่สองเค้าจะปลูกผักผลไม้แล้วเก็บไปขายแล้วก็จะได้เงินเลี้ยงชีพและรูปแรกเค้าก็จะไปขี่รถสามล้อ เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงชีพ

ภาพชุดที่สี่ คือ ภาพการพักผ่อนหย่อนใจ

การพักผ่อนของคนกรุงเทพฯนั้นส่วนใหญ่จะไปเที่ยวกัน เช่น ภาพแรกก็จะเป็นการนวดก็จะเป็นการพักผ่อนเหมือนกัน ภาพที่สองก็จะเป็นการไปเที่ยวเหมือนกันเป็นการไปเที่ยวน้ำตกซึ่งเค้าไปพายเรือกัน ภาพที่สามเป็นการไปเดินช็อปที่ตลาดการพักผ่อน

การพักผ่อนของคนชนบทภาคกลางส่วนใหญ่จะเป็นการละเล่นของไทยมีทั้ง การเล่นเครื่องดนตรีไทยจากภาพที่สองการเล่นประเพณีไทยจากภาพที่หนึ่งและภาพที่สาม แต่ทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่เป็นของไทยทั้งหมดมาตั้งแต่โบราณมาแล้วและเราก็ควรจะรักษามันต่อไปให้อยู่อีกนานนาน

ท้ายนี้ ปูนได้สรุป สิ่งที่เหมือนกันของคนกรุงเทพและคนชนบทภาคกลางว่า มีบ้านพักอาศัยเหมือนกัน มียานพาหะนะเหมือนกัน มีถนนเหมือนกัน มีการพักผ่อนเหมือนกัน

ส่วนสิ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ รูปแบบการพักอาศัยไม่เหมือนกัน เช่น บ้านในกรุงเทพฯส่วนใหญ่จะมีหลายชั้นหรือสองชั้นบ้านในชนบทภาคกลาง ส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว   รูปแบบถนนไม่เหมือนกัน เช่น ในกรุงเทพฯจะเป็นถนนที่เรียบและเดินทางได้สะดวกแต่ในชนบทภาคกลางจะเป็นดินแห้งๆ ขรุขระทำให้เดินทางยังไม่สะดวก.  รูปแบบการพักผ่อนไม่เหมือนกัน เช่นการพักผ่อนในกรุงเทพฯส่วนใหญ่เป็นการไปเที่ยวแต่ในชนบทภาคกลางเป็นการละเล่นไทย

การที่กรุงเทพฯและชนบทภาคกลางแตกต่างกัน ในเมื่ออยู่ในประเทศเดียวกันหรืออยู่ในภาคเดียวกัน ก็อาจจะแตกต่างกันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเสมอไป เพราะว่าขนาดคนในครอบครัวเดียวกันยังไม่เหมือนกันเลย และสาเหตุที่ทำให้กรุงเทพฯและชนบทภาคกลางแตกต่างกัน คือกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและทันยุคทันสมัยมีเทคโนโลยี ก้าวหน้าเจริญ ส่วนชนบทบางที่เทคโนโลยีอาจจะไปยังไม่ถึงจึงเป็นสาเหตุที่แตกต่างกัน และบางที่เทคโนโลยีก็ไปถึงแล้วจึงอาจจะเป็นสาเหตุที่เหมือนกันมีการละเล่นไทยที่เหมือนกันและคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และที่เหมือนกันทั่วประเทศ คือวัฒนธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานบอกเล่า ๙ พอดีชั้น ๕ และ ชั้น ๖

        วันศุกร์ที่ ๒๒ มิ.ย. ที่ผ่านมา ทางช่วงชั้นได้จัดงานบอกเล่า ๙ พอดี ให้กับผู้ปกครองชั้น ๕ และชั้น ๖ เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความรู้และควา...